IROBOT
ชื่อภาษาไทย ไอ โรบอท แผนพิฆาตจักรกลเขมือบโลก
ภาพยนตร์แนว ไซไฟแอ็คชั่นผจญภัย
นักแสดง วิล สมิธ บริดเจ็ต โมยนาแฮน บรูซ กรีนวู้ด ชิ แมคไบรด์
ทีมงาน กำกับการแสดงโดย
อเล็กซ์ โพรยาส สมิธ
เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 2035 เทคโนโลยีและหุ่นยนต์ได้รับความไว้วางใจ
ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ความไว้ใจนั้นได้ถูกทำลายลง
และมีชายหนุ่มเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ต่อต้านระบบโดยลำพัง
และมองเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในปีค.ศ. 2035 หุ่นยนต์เป็นอุปกรณ์ประจำบ้านสำหรับทุกครัวเรือนและทุกๆคนก็เชื่อใจพวกมัน
ยกเว้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบจอมวิตกกังวลคนหนึ่ง (วิลล์ สมิธ) เขากำลังตามหาในสิ่งที่เพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่เชื่อว่าหุ่นยนต์สามารถ
ก่ออาชญากรรมได้ การฆาตกรรม ดร. ไมล์ส โฮเก็นมิลเลอร์ ซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์
ที่ซึ่ง ซอนนี่ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ตัวหนึ่งมีส่วนพัวพัน แม้ว่านั่นจะหมายถึงพวกหุ่นยนต์ได้ทำผิดตามกฏหมายของหุ่นยนต์ซึ่งดูแล้วไม่
น่าจะเป็นไปได้ก็ตาม คดีดังกล่าวได้นำนายตำรวจผู้นี้ค้นพบกับสิ่งที่น่าตื่นตระหนกที่กำลังจะมาเยือนมนุษยชาติ
ลองนึกภาพของโลกที่มอเตอร์ไซค์ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง
หุ่นยนต์กำกับวงซิมโฟนีออเคสตร้า และระบบการคิดของสัตว์สามารถทำให้หุ่นเคลื่อนไหวได้
เปล่าเลย นี่ไม่ใช่การแสดงให้เห็นถึงโลกอนาคตแสนไกล… แต่มันเป็นข่าวพาดหัวของหนังสือพิมพ์ในวันนี้
เรื่องราวเกิดขึ้นในอีกราว 30 ปีข้างหน้า
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ “ผู้ช่วยสมองกลประจำบ้าน”
ใน I, ROBOT สถาปัตยกรรม เครื่องแต่งกาย
และพาหนะนั้นดูน่าอัศจรรย์ในยิ่ง แต่ในขณะเดียวกันผู้ชมยังสามารถสัมผัสได้โดยง่าย
ในความก้าวหน้าเหล่านี้ แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าในอนากคตอันใกล้ หุ่นยนต์จะได้รับความไว้วางใจให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา ทุกๆ ครอบครัวจะมีหุ่นยนต์หนึ่งตัวหรือมากกว่านั้น พวกมันจะทำความสะอาดบ้าน ส่งของ พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น – แม้แต่ดูแลลูกๆ ของเรา แต่ถ้าหากว่าความไว้ใจถูกสั่นคลอนเล่า? คำถามนี้เป็นหัวใจของเรื่อง I, ROBOTเป็นเรื่องราวเกิดขึ้นในวิกฤติการณ์ของเทคโนโลยีและสังคม ในขณะที่จำนวนหุ่นยนต์ในสหรัฐฯ มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าตัว ในการเปิดตัวของหุ่นยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของ U.S. Robotics – NS-5 Automated Domestic Assistant – โดยกำหนดให้มีหุ่นยนต์หนึ่งตัวต่อมนุษย์ห้าคน เป็นหุ่นยนต์ตัวแรกของรุ่นถัดไปที่ทำด้วยอัลลอยด์ที่แกร่งเป็นพิเศษ หุ่น NS-5 ได้รับการออกแบบให้ทำงานสารพัดอย่าง ตั้งแต่เป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ทำอาหารเย็นให้ทั้งครอบครัว จนกระทั่งสรุปรายการบัญชีรายรับ-จ่าย ผลจากการจำหน่ายหุ่นรุ่น NS-5 จะยกฐานะของบริษัท U.S. Robotics ให้เป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งดาวโลก
ในความก้าวหน้าเหล่านี้ แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าในอนากคตอันใกล้ หุ่นยนต์จะได้รับความไว้วางใจให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา ทุกๆ ครอบครัวจะมีหุ่นยนต์หนึ่งตัวหรือมากกว่านั้น พวกมันจะทำความสะอาดบ้าน ส่งของ พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น – แม้แต่ดูแลลูกๆ ของเรา แต่ถ้าหากว่าความไว้ใจถูกสั่นคลอนเล่า? คำถามนี้เป็นหัวใจของเรื่อง I, ROBOTเป็นเรื่องราวเกิดขึ้นในวิกฤติการณ์ของเทคโนโลยีและสังคม ในขณะที่จำนวนหุ่นยนต์ในสหรัฐฯ มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าตัว ในการเปิดตัวของหุ่นยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของ U.S. Robotics – NS-5 Automated Domestic Assistant – โดยกำหนดให้มีหุ่นยนต์หนึ่งตัวต่อมนุษย์ห้าคน เป็นหุ่นยนต์ตัวแรกของรุ่นถัดไปที่ทำด้วยอัลลอยด์ที่แกร่งเป็นพิเศษ หุ่น NS-5 ได้รับการออกแบบให้ทำงานสารพัดอย่าง ตั้งแต่เป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ทำอาหารเย็นให้ทั้งครอบครัว จนกระทั่งสรุปรายการบัญชีรายรับ-จ่าย ผลจากการจำหน่ายหุ่นรุ่น NS-5 จะยกฐานะของบริษัท U.S. Robotics ให้เป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งดาวโลก
กฎ
3 ข้อของหุ่นยนต์
หรือ Three Laws of Robots ของ ไอแซค อาซิมอฟ มีดังนี้
1. หุ่นยนต์ไม่สามารถทำร้ายมนุษย์
หรือไม่ยอมให้มนุษย์ตกอยู่ในอันตราย
2. หุ่นยนต์ต้องเชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์
นอกเสียจากว่าคำสั่งนั้นขัดแย้งกับกฎข้อที่หนึ่ง
3. หุ่นยนต์ปกป้องตนเองได้
โดยไม่ขัดแย้งกับกฎข้อที่หนึ่งหรือสอง
ซึ่งจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วสามารถที่จะวิเคราะห์ได้ว่าเป็ฯเรื่องที่เกี่ยวข้องวิชาระบบสนเทศสำหรับการบริหาร คือ มีการสร้างหุ่นยนต์ขึ้นเพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนในการช่วยงานต่างๆ โดยบริษัทหุ่นยนต์จะมีการคิดออกแบบตัวหุ่นยนต์เพื่อให้มีการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องมนุษย์มากที่สุดโดยในช่วงแรกก็เป็นเพียงการให้ตัวหุ่นยนต์ทำงานตามคำสั่งต่างๆที่ถูกใส่ไว้ในแผ่นแม่เหล็กและถูกควบคุมโดยเครือข่ายใหญ่เป็นตัวควบคุมระบบและในหุ่นยนต์แต่ละตัวละก็จะมีแผ่นแม่เหล็กเช่นกันเพื่อใช้ในการรับข้อมูลและประมวข้อมูลต่างๆเพื่อปฏิบัติการตามความต้องการมนุษย์เมื่อได้รับคำสั่ง จากนั้นบริษัทหุ่นยนต์ได้เริ่มมีการพัฒนาระบบซอฟแวร์และฮาร์ดให้มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นโดยตัวหุ่นสามารถที่จะรับรู้ เข้าใจ ความรู้สึกของมนุษย์เพิ่มมมากขึ้นจากเดิมที่มีเพียงการทำงานตามคำสั่งเท่านั้น ก็พัฒนาให้หุ่นยนต์มีลักษณะด้านความคิดต่างๆคล้ายมนุษย์มากขึ้น แต่การพัฒนาระบบซอฟแวร์ฮาร์ดแวร์ต่างๆของตัวหุ่นยนต์เองก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ หุ่นยนต์จะสามารถทำงานได้ตามโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้นไม่สามารถทำงานนอกเหนือจากชุดคำสั่งนี้ได้ แล้วเมื่อเกิดข้อผิดพลาดในระหว่างการทำงานหุ่นยนต์ก็จะไมม่สามารถทำงานหรือแก้ไขปัญหาได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น